วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552

RPG หัวปลีบิน!


ถ้ากล่าวถึงปืนเล็กยาวจากค่ายรัสเซียคือAK-47หรือ”อาก้า” อาวุธอีกชนิดที่มักจะเห็นคู่กันเสมอในภาพข่าวคงมีไม่กี่ประเภท หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นเครื่องยิงจรวดประทับบ่าทรงกระบอกบรรจุใหม่ได้ไร้แรงสะท้อน มีส่วนหัวรูปทรงกรวยหันท้ายประกบกันลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับหัวปลีกล้วย ด้านท้ายเป็นกรวยบานเพื่อเป็นทางออกของแรงขับ ที่ถูกชาติตะวันตกเรียกอย่างคุ้นเคยด้วยชื่อย่อว่าRPG จากชื่อเต็มตามลักษณะการใช้งานว่าRocket-Propelled Grenade Launcher มาจากชื่อภาษารัสเซีย”เรอัคติฟนิอี โปรติโวตันโควิอี กรานาต็อมย็อต” (реактивный противотанковый гранатомёт) อาวุธทำลายล้างเอนกประสงค์ที่ทหารราบกลัวพอๆกับทหารในยานเกราะเบา ที่ดูเหมือนแน่นหนาปลอดภัยแต่กลับไม่ใช่เลยเมื่อพบกับRPG
ถึงจะเป็นอาวุธร้ายแรงยอดนิยมของกองกำลังจรยุทธปัจจุบัน และหน่วยรบหลักที่จัดหายุทโธปกรณ์จากรัสเซียและประเทศอดีตโซเวียต แต่ความเป็นมาของRPGนั้นเก่าแก่นับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่19 เมื่อ”ดินขับรูปพิเศษ”(shaped charge)ส่วนประกอบสำคัญของอาวุธต่อสู้รถถังได้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างพลังงานขับดันไปในทิศทางที่ต้องการ หลักๆคือให้พุ่งเป็นแนวตรงไปทะลุทะลวงโลหะหนาได้ถึง7-10เท่าเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวโคนหัวระเบิด ขึ้นอยู่กับเนื้อโลหะหรือวัสดุที่ใช้สร้างเกราะเป้าหมาย
ดินขับชนิดนี้ใช้กับกระสุนปืนใหญ่และปืนต่อสู้รถถังลากจูง แต่เมื่อยานเกราะและรถถังเข้าสู่สนามรบมากขึ้นในสงครามโลกครั้งที่2 ทหารราบก็ต้องการอาวุธต่อสู้รถถังมากขึ้นตามสภาพแวดล้อม ต้องใช้ง่าย น้ำหนักเบา ประหยัดกำลังพลและนำติดหน่วยรบย่อยไปได้ทุกที่ RPGเห็นชัดๆในยุคแรกคือบาซูกา(Bazooka)ของสหรัฐ,พันเซอร์เฟาสต์(Panzerfaust)ของนาซีเยอรมัน โซเวียตได้พัฒนาRPGของตนขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่2จากคุณสมบัติเด่นของบาซูกาและพันเซอร์เฟาสต์ จึงไม่แปลกที่หัวรบใหญ่กว่าลำกล้องและวิธีบรรจุด้านหน้าของRPGจะคล้ายกับพันเซอร์เฟาสต์ ยิงแล้วบรรจุใหม่ได้เหมือนบาซูกา
ส่วนประกอบสำคัญของRPGตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมจนถึงรุ่นยอดนิยมคือRPG-7ในปัจจุบัน และรุ่นล่าสุดคือRPG-29”แวมไพร์”ที่ประจำการเมื่อปี 1989 ทั้งหมดผลิตในรัสเซียและยุโรปตะวันออก มี2ส่วนคือเครื่องยิงและหัวรบ หัวรบหลักคือแบบระเบิดแรงสูง(HE :high explosive)และระเบิดแรงสูงต่อสู้รถถัง(HEAT:high explosive anti-tank) ทั้งสองแบบใช้เครื่องยิงเดียวกันที่เป็นท่อทำหน้าที่เพียงลั่นไกจุดระเบิด มีดินขับในหัวรบให้พุ่งเข้าเป้าได้เองโดยไม่นำวิถี บังคับทิศทางให้ตรงด้วยครีบพับแล้วบานออกทันทีที่พ้นเครื่องยิง ทหารเพียงแต่นำRPGเข้าใกล้เป้าหมายในระยะหวังผลไกลสุดคือ300เมตรสำหรับยานเกราะ หรือ500เมตรสำหรับที่มั่นในอาคาร พอศูนย์เล็งทาบเป้าก็เหนี่ยวไกยิงได้เลย ยิงเสร็จจะยิงซ้ำหรือจะทิ้งมันแล้ววิ่งหนีก็ยังได้ จะยิงใกล้กว่า300เมตรก็ได้แต่ต้องไกลพอจะปลอดภัยจากสะเก็ดระเบิด คนยิงต้องไม่อยู่ในที่อับหรือไม่มีใครอีกคนไปยืนตรงท้ายเครื่องยิง เพราะแรงขับความดันสูงและร้อนเป็นอันตรายถึงตาย
ความร้ายกาจและคล่องตัวของRPGทำให้ถูกใช้งานแพร่หลาย RPG-7รุ่นยอดนิยมที่ใช้ในกองทัพทั่วโลกปัจจุบันนี้ ทหาร1นายสามารถนำพาหัวรบต่างชนิดกันได้มาก2-3หัว แล้วแต่จะเลือกยิงสังหารบุคคล ทำลายที่มั่นหรือยานเกราะ ยิงง่ายโดยบรรจุทางปากกระบอก ด้วยน้ำหนักรวมเพียงเกือย7ก.ก.ทหารสามารถพกพามันไปได้ทุกที่แม้แต่ส่งทางอากาศ
RPG-7Vคือเครื่องยิงจรวดที่แตกรุ่นจากRPG-7 มันเบาพอให้นำพาหัวรบและเครื่องยิงไปได้ด้วยทหารเพียงหนึ่งนาย ถ้ามีอีกคนอีกหนึ่งหรือสองคนคอยหอบหัวรบวิ่งตามจะยิ่งเพิ่มอำนาจทำลายล้างในกรณียิงซ้ำ ทั้งเป้านิ่งและเคลื่อนที่ ตามปกติผู้ยิงจะขนหัวรบไปได้สองหัวและทีมจะขนไปได้อีกอย่างน้อยสามหัวรบ เหลือเฟือสำหรับการทำลายเป้าหมายที่มั่นดัดแปลง หรือเป้าเคลื่อนที่ขนาดเท่ารถเก๋งได้ในระยะตั้งแต่50ถึง100เมตรโดยพลยิงที่ฝึกมาน้อย แต่ถ้ายิงจนชำนาญก็จะเพิ่มระยะหวังผลได้อีกสองถึงสามเท่าตัว ลดโอกาสเปิดเผยที่มั่นของตัวเองจากควันขาวพุ่งตามตัวจรวด
คุณสมบัติอีกข้อที่ทำให้มันเป็นอาวุธเอนกประสงค์ คือเมื่อเคลื่อนที่ไปไกลถึง920เมตรหรือ4.5วินาทีหลังพ้นลำกล้อง ถึงไม่กระทบเป้าใดๆกลไกจุดระเบิดก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ พลยิงที่ศึกษาจนรู้ซึ้งในคุณสมบัติข้อนี้จะใช้มันได้แบบเดียวกับกระสุนปืนใหญ่แตกอากาศ ถ้าคำนวณระยะยิงได้ตรงกับเป้า ในระยะใกล้จะใช้ยิงอากาศยานเคลื่อนที่ช้าอย่างเฮลิคอปเตอร์ก็ได้ ดังที่ฝ่ายกบฏในโซมาเลียทำสำเร็จมาแล้วและส่งผลกระทบต่อเนื่องรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จากเหตุการณ์”แบล็คฮอว์ค ดาวน์”เมื่อปี1993 ที่สหรัฐสูญเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง-โจมตีแบบUH-60”แบล็คฮอว์ค”ไปสองเครื่อง
ผลข้างเคียงจากRPGเพียงสองลูกคือฝ่ายสหรัฐเสียทหารไป18นายบาดเจ็บอีก73จากความพยายามเข้าไปช่วยนักบินและพลประจำเครื่อง ทางด้านโซมาเลียประมาณว่าทั้งเจ็บและตายไม่ต่ำกว่า1,000ถึง1,500คน! รัฐบาลสหรัฐต้องทบทวนนโยบายต่างประเทศใหม่หมดในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยเฉพาะการใช้กำลังทหารเข้าไปแทรกแซงในประเทศด้อยพัฒนา เมื่อเกิดความวุ่นวายกระทบกระเทือนผลประโยชน์ของสหรัฐ ตัวอย่างคือการสังหารล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดาเมื่อปี1994 ครั้งนั้นประมาณว่าประชากรต้องเสียชีวิตไป800,000ถึง1,071,0008ทั้งเผ่าทุตซีและฮูตู หลังเหตุการณ์”แบล็คฮอว์ค ดาวน์”เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯตัดสินใจไม่ส่งทหารเข้าแทรกแซง เพราะหวั่นสภาพแวดล้อมอันไม่ต่างจากกรุงโมกาดิสชูของโซมาเลีย
และอีกครั้งในปีถัดมาที่สหรัฐไม่ส่งกองกำลังขนาดใหญ่ไปรบกับกองทัพบอสเนีย กับไม่เข้าไปรบกองทัพยูโกสลาเวียในโคโซโวเมื่อปี1999 ทั้งที่สองเหตุการณ์ต่างก็กระทบกับผลประโยชน์ของสหรัฐ ก็เพราะหวั่นว่าจะสูญชีวิตทหารอเมริกันไปในทำนองเดียวกับที่โซมาเลีย ทั้งหมดนี้มีต้นเหตุมาจากRPGเพียงสองลูกแท้ๆ
มันถูกออกแบบมาให้ยิงรถถังก็จริง แต่RPGที่ใช้แพร่หลายในปัจจุบันค่อนข้างทะลุทะลวงเกราะหนาๆของรถถังหลัก(Main Battle Tank : MBT)ได้ยาก เว้นแต่RPG-29รุ่นล่าสุดที่อ้างว่ามีใช้แต่กองทัพของรัสเซียเท่านั้น RPGรุ่นดังกล่าวเคยเป็นข่าวเมื่อปี2007ว่ายิงเจาะเกราะรถถังแชลเลนเจอร์2ของอังกฤษได้คันหนึ่ง ระหว่างการกวาดล้างในเมืองอัล-อามาราฮ์ของอิรักตามคำยืนยันของกองทัพอังกฤษ แต่ยังมีเหตุก่อนหน้านี้เมื่อหนังสือพิมพ์ฮาเรตซ์(Haaretz)ของอิสราเอลอ้างแหล่งข่าวเชื่อถือได้ ว่าพวกเฮสบอลลาห์ใช้RPGรุ่นนี้เหมือนกันจนเป็นสาเหตุใหญ่ของการเสียชีวิตและบาดเจ็บของทหารอิสราเอลในศึกเลบานอนเมื่อปี2006
กรณีRPG-29ในเลบานอนนี้ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียปฏิเสธข่าวโดยสิ้นเชิงว่าไม่ได้สนับสนุนพวกเฮสบอลลาห์(โดยตรง) กระนั้นอิสราเอลก็ยืนยันชัดเจนว่ามันถูกส่งผ่านให้กองโจรกลุ่มนี้ทางซีเรีย ตรงกันกับรายงานในนิตยสารคอมเมอร์ซานต์(Kommersant)ของรัสเซีย ที่อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลยอมรับว่าได้ส่งอาวุธนี้ให้กองทัพซีเรียจริง แต่ซีเรียจะส่งRPG-29ให้พวกเฮสบอลลาห์ระหว่างต้องถอนทัพจากเลบานอนด้วยหรือเปล่านั้นไม่มีใครรู้ จากนั้นรัฐบาลรัสเซียจึงเข้มงวดกับการส่งออกอาวุธร้ายแรงทุกประเภทให้กับประเทศใดก็ตามที่ทำสัญญาซื้อจากตน อันเป็นผลต่อเนื่องจากความไม่พอใจของอิสราเอลกับกรณีRPG-29
เพราะรถถังหลักในปัจจุบันอย่างM1”เอบรัมส์”หรือในตระกูลแชลเลนเจอร์และอีกหลายแบบ ได้ถูกพัฒนาเกราะป้องกันอาวุธต่อสู้รถถังจนเกือบมั่นใจว่าพลประจำรถจะได้รับอันตรายอย่างมากแค่บาดเจ็บ RPGจึงถูกใช้ในภารกิจสังหารกลุ่มบุคคลหรือทำลายที่มั่นดัดแปลงจนถึงยานเกราะเบาเกราะบาง ต้องเล็งให้ดีตรงสายพานจึงจะหยุดรถถังได้
มันเคี้ยวฮัมวีหรือยูนิม็อกของทหารราบได้สบายๆ จะใช้รังควานขบวนรถหรือทำลายให้หมดทั้งขบวนก็ได้หากซุ่มโจมตีให้เหมาะๆมีหัวรบเพียงพอ ยิงหัวขบวนท้ายขบวนได้รถที่เหลือก็ไม่ต่างจากเป้านิ่ง ใครเคยดูภาพยนตร์เรื่องClear and Present Dangers จากนิยายเรื่องเดียวกันของทอม แคลนซีเมื่อหลายปีก่อนคงนึกภาพออก ตัวละครแจ็ค ไรอันรอดจากตรงนั้นมาได้แบบปาฏิหาริย์แท้ๆ
เพราะมันผลิตง่ายราคาถูกและผลิตได้ทีละมากๆ หาซื้อก็ยังง่ายสำหรับกองกำลังต่างๆ RPGจึงเป็นที่นิยมใช้ในหมู่กองกำลังจรยุทธใหญ่ๆเช่นเฮสบอลลาห์,อัล-ไคดา บางครั้งก็ยังเคยเป็นข่าวประปรายในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยว่าผู้มีอิทธิพลในชนบทถูกถล่มด้วยอาก้า อาวุธอีกประเภทที่ถูกกล่าวถึงก็ไม่พ้นRPG
ยุทธภัณฑ์ชนิดนี้ในปัจจุบันก็ถูกบรรจุเป็นอาวุธในอัตราจัดหาของกองทัพไทยแล้ว มีประจำการในชายแดนและหน่วยรบสำคัญฯหลายหน่วย จะใช้งานให้ได้ประโยชน์เต็มที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญ อ่านคู่มือ(ถ้ามี)ให้ทะลุปรุโปร่ง โดยเฉพาะเรื่องการบรรจุหัวรบและหยิบจับ หากไม่ระวังนิ้วมือคนยิงอาจขาดได้ง่ายๆถ้าพลาดพลั้งไปจับปากกระบอกระหว่างยิง เมื่อครีบท้ายจรวดบานออกระหว่างพุ่งจากลำกล้องและข้อควรระวังปลีกย่อยอื่นๆเช่นการเก็บรักษา ฯลฯ
การรู้จักกับอาวุธที่ไม่เคยใช้หรือไม่คุ้นเคยไม่ใช่เรื่องเสียหาย กลับจะทำให้กำลังพลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเสียอีก เข้าทำนอง”รู้เขา รู้เรา”รบ100ครั้งถึงชนะแค่50ที่เหลือถึงจะแพ้ก็ยังไม่เสียหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น