วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Aimpoint นวัตกรรมเพื่อความแม่นยำ



ใครที่รู้จักปืนย่อมต้องรู้ว่าการเล็งให้ถูกเป้าต้องให้จุดสามจุดเรียงตัวเป็นเส้นตรง ยิ่งตรงก็ยิ่งมีโอกาสถูกเป้ามาก ไม่ว่าจะเป็นปืนเล็กยาวหรือปืนสั้นก็ใช้หลักการเดียวกันหมด ทั้งสามจุดนั้นประกอบด้วยเป้า ศูนย์หน้าและศูนย์หลัง การเล็งศูนย์เปิดปราศจากเครื่องช่วยใดๆนั้นถ้าจะว่ากันจริงๆแล้วค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลา ยิ่งในยามคับขันแล้วการเล็งประณีตแทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้จะจ้องให้ศูนย์หน้าและศูนย์หลังเป็นเส้นตรงเดียวกันแล้วก็ตาม เมื่อต้องเล็งอย่างเร่งด่วนเช่นในการรบระยะประชิด(CQB: Close Quarter Battle)โอกาสที่เป้าจะหลุดศูนย์ย่อมมีมาก ในเวลากลางวันที่แสงสว่างมีมากพอยังหลุดง่าย ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนคงไม่ต้องพูดถึงเพราะทั้งศูนย์และตัวเป้าคงจะกลืนกันไปกับความมืด ยิ่งทำให้เล็งได้ยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่อเข้าอาคารซึ่งมีแสงน้อยกว่ากลางแจ้ง

เมื่อหลักนิยมในการรบและการรักษากฎหมายเปลี่ยนไป อะไรเล่าถึงจะเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้ปืนสามารถเล็งและยิงได้เร็วที่สุด? หลักการง่ายๆก็คือต้องทำให้ศูนย์เล็งเหลือแค่จุดเดียวซึ่งต้องเที่ยงตรง เมื่อมองจากมุมไหนๆก็ต้องไม่หลุดจากแนวระนาบ มันต้องสว่างให้เห็นได้ถนัดทั้งในสภาพมีแสงจ้าและแสงน้อย ที่สำคัญคือต้องไม่เปิดเผยตำแหน่งของผู้ใช้ปืน เมื่อจะใช้งานก็เพียงแค่เอาจุดนั้นไปทาบเป้าซึ่งจะลดเวลาการเล็งลงได้ถึง1ใน10 ทั้งยังเพิ่มอัตราการอยู่รอดได้ในช่วงเวลาคับขัน

โจทย์เหล่านี้ได้ถูกตอบแล้วโดยกลุ่มนักธุรกิจสวีดิชกลุ่มเล็กๆซึ่งนิยมการเข้าป่าล่าสัตว์ ซึ่งรวมตัวกันสร้างผลิตภัณฑ์ที่ในขณะนั้นยังไม่มีใครคิดในปี1974 ด้วยเป้าหมายง่ายๆคือสร้างเทคโนโลยีการเล็งปืนให้ผู้ใช้ปืนเล็งได้เร็ว สามารถล็อคเป้าเคลื่อนที่ได้ง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงใด

ผลก็คือการตั้งบริษัทเพื่อผลิตศูนย์เล็งจุดแดงAimpointขึ้นในเมืองมัลโมประเทศสวีเดน จากจุดเริ่มต้นเล็กๆนั้นได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกรุ่นออกไปหลากหลายเพื่อใช้งานทั้งในกิจการทหารและพลเรือน โดยกลุ่มผู้ก่อตั้งช่วงแรกนั้นไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นนวัตกรรมที่มาปฏิวัติระบบการเล็งปืนโดยสิ้นเชิง

ด้วยหลักการง่ายๆคือใช้เลนส์สะท้อนแสงจากหลอดไฟLEDขนาดเล็กมายังตาผู้เล็ง โดยมีควงปรับละเอียดทั้งแนวตั้งและแนวนอนให้ได้ศูนย์หลังจากการปรับศูนย์ครั้งแรกแล้ว คุณสมบัติที่ทำให้ศูนย์เล็งจุดแดงแตกต่างไปจากแสงเลเซอร์จุดแดงก็คือไม่มีจุดสีแดงทาบเป้าให้เห็น จุดแดงนั้นจะปรากฎอยู่ภายในกระบอกศูนย์เล็งวางตัวเป็นแนวเดียวกับศูนย์หน้าและหลังของปืนอยู่แล้ว เพียงแค่เบนจุดแดงไปทาบเป้าในช่วง5ถึง100เมตรซึ่งเป็นระยะที่การสู้รบมีโอกาสเกิดได้สูงสุด โดยเฉพาะเมื่อปฏิบัติการนั้นอยู่ในเขตเมือง(MOUT :Military Operation on Urban Terrain) การเล็งได้เร็วกว่าแม้เป็นเศษเสี้ยววินาทีย่อมหมายถึงอัตราการอยู่รอดย่อมสูงกว่า

ข้อได้เปรียบของเอมพอยท์เมื่อเทียบกับศูนย์เล็งอื่นๆ โดยเฉพาะที่เป็นระบบholographicคือมันกินไฟน้อยมาก น้อยอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ศูนย์เล็งจุดแดงในซีรี่ส์M68รุ่นComp M3ได้กำลังไฟจากแบตเตอรี่AAก้อนเดียวสามารถเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาเป็นเวลา50,000ชั่วโมงหรือประมาณ5ปี และในรุ่นที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นคือComp M4นั้นยิ่งกินไฟน้อยกว่าคือเปิดต่อเนื่องได้นาน80,000ชั่วโมงหรือ8ปี จึงไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะหมดในยามคับขัน ถ้าใช้แล้วปิดสวิทช์ไม่เปิดต่อเนื่อง อายุของแบตเตอรี่จะยิ่งนานขึ้นไปอีก จะเรียกว่าใส่แบตเตอรี่ก้อนเดียวแล้วใช้งานจนลืมก็ยังได้

เทียบกับระบบโฮโลกราฟิกที่ดูผ่านๆเหมือนว่าจะไม่ต่างกันแล้ว ระบบACET(Advanced Circuit Efficiency Technology) ที่ใช้กับศูนย์เล็งของเอมพอยท์ถือว่าทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น เพราะศูนย์เล็งระบบโฮโลกราฟิกใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขนาดเท่ากันถึงสองก้อนแต่อยู่ได้นานแค่6ชั่วโมงต่อเนื่องเท่านั้น หมายความว่าหากลืมเปิดสวิทช์ไว้เพียงข้ามคืน วันรุ่งขึ้นก็ต้องหาแบตเตอรี่ใหม่มาใช้เพราะของเก่าไฟหมด

เพราะระบบการทำงานของเอมพอยท์ง่ายต่อการใช้งาน สว่างไสวให้ผู้เล็งปืนมองเห็นได้ชัดทั้งกลางป่าดงดิบเขตร้อนชื้น ในอาคารมืดทึบและกลางแดดสว่างจ้าของทะเลทรายแถบตะวันออกกลาง มันจึงได้รับความไว้วางใจจากกองทัพและหน่วยงานรักษากฎหมายของสหรัฐให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานประจำการมาตั้งแต่ปี1997 โดยเฉพาะComp M4ซึ่งเป็นศูนย์เล็งจุดแดงที่ดีที่สุดเท่าที่เอมพอยท์ผลิตมานั้นปัจจุบันประจำการในกองทัพและหน่วยงานรักษากฎหมายของสหรัฐฯแล้วกว่าล้านชิ้น และยังคงมียอดสั่งผลิตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

นอกจากแม่นยำใช้เวลาเล็งยิงได้รวดเร็วแล้วมันยังทนทายาท ศูนย์เล็งจุดแดงComp M4ที่ได้มาทดสอบนั้นทนจริงสมคำโฆษณาของเอมพอยท์ เมื่อใช้ติดกับปืนเล็กสั้นM4บนรางติดอุปกรณ์เหนือโครงปืน แล้วเล็งยิงแบบกึ่งอัตโนมัติติดต่อกันเป็นร้อยนัด ศูนย์ที่ตั้งไว้แต่แรกไม่คลาดเคลื่อน ลองยิงแบบอัตโนมัติต่อเนื่องอีกเป็นร้อยนัดก็ไม่เคลื่อน ถอดออกมาขว้างบนพื้นคอนกรีตแล้วเตะลงน้ำ งมขึ้นมาใช้ใหม่ก็ยังทำงานได้เป็นปกติ ที่ดีกว่านั้นคือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มองกลางคืน(NVD: Night Vision Devices)ได้โดยไม่ต้องดัดแปลง เพราะการเอาแค่จุดแดงไปทาบเป้าไม่ต้องเรียงศูนย์หน้าและหลังให้ได้แนว ผู้ใช้อาวุธจึงลดเวลาการเล็งเป้าเร่งด่วนลงได้มากกว่าครึ่งของเวลาเดิม แค่ทาบเป้าแล้วเหนี่ยวไก...ทาบแล้วเหนี่ยว...

นี่จึงเป็นอีกผลิตภัณฑ์จากประเทศสวีเดนสำหรับกองทัพทั่วโลกนอกจากเครื่องบินรบและเรือดำน้ำ ที่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพได้สนิทใจ โดยผู้ทดสอบและใช้งานรายใหญ่คือกองทัพสหรัฐฯที่นำศูนย์เล็งจุดแดงไปใช้ทั้งในอิรัค อาฟกานิสถานและทุกที่ที่ทหารอเมริกันประจำการอยู่ นอกจากสหรัฐฯและกองทัพสวีเดนจะไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเอมพอยท์แล้วยังมีอีกหลายประเทศที่บรรจุอุปกรณ์ช่วยเล็งจุดแดงชิ้นนี้ไว้ประจำการ อาทิกองทัพบกฝรั่งเศส,กองทัพบกเดนมาร์ก,กองทัพบกฟินแลนด์,กองทัพบกนอร์เวย์,กองทัพบกแลตเวีย,กองทัพบกสโลเวเนียและกองทัพบกอิตาลี ถึงในบางประเทศที่ไม่ได้บรรจุเอมพอยท์เข้าประจำการ แต่กำลังพลที่พอมีทุนทรัพย์ก็จดหามาไว้ใช้เอง เมื่อเห็นความสำคัญของการเล็งยิงที่เร็วกว่าซึ่งจะช่วยรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเล็งยิงด้วยมุมไหน ในสภาพแสงอย่างไรจุดแดงจะสว่างคงที่และคงตำแหน่งไม่เคยเปลี่ยน

หลังจากทดสอบแล้วผมมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเอมพอยท์มีคุณภาพสมคำโฆษณาจริงๆ ถึงไม่ต้องทดสอบก็พอจะมั่นใจได้จากรายชื่อประเทศที่ใช้อุปกรณ์แบรนด์นี้ในกองทัพ ราคาของมันไม่แพงเลยถ้าจะเทียบกับชีวิตของเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจถึงกับเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ การลงทุนกับศูนย์เล็งดีๆสักอันหนึ่งจึงไม่แตกต่างจากการลงทุนเพื่อซื้อชีวิต เพื่อความอยู่รอดเพื่อจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อีก ไม่เป็นที่เศร้าเสียใจสำหรับคนใกล้ชิด

ผู้นำเข้าและเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทยคือบริษัท299 มีโชว์รูมคือร้านTankStoreชั้น3ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โทรศัพท์02 613 1052

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น