วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เยือนถ้ำสิงห์บิน(1)


ถ้าชื่อหัวเรื่อง”เยือนถ้ำสิงห์บิน”ที่ผมเขียนไว้นี้อาจทำให้แฟนคอลัมน์สับสน ผมก็ขออธิบายได้ว่า”สิงห์บิน”นั่นไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่ไหน นอกจากสัตว์ในเทพนิยายกรีกที่มีตัวเป็นสิงโตและมีปีกอย่างนกอินทรีชื่อกริฟฟิน(Griffin),กริฟฟอน(Griffon) หรือในภาษาสวีดิชคือ”Gripen”ชื่อเดียวกับเครื่องบินขับไล่ที่กำลังจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศของเราพร้อมกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการ อันประกอบไปด้วยสถานีเรดาร์ เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศSAAB340”อีรีอาย”(Irieye)และตัวเครื่องบินขับไล่JAS39กริพเพนรุ่นซีและดีรวม12ลำ

และการเยือนถ้ำสิงห์บินดังกล่าวนี้ จริงๆแล้วก็คือการติดตามคณะของผู้บัญชาการทหารอากาศไปยังประเทศสวีเดน เพื่อตรวจเยี่ยมและประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการร่วมไทย-สวีเดน ในโครงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนระหว่างวันที่15-22สิงหาคม เป็นการประชุมร่วมของคณะกรรมการร่วมไทย-สวีเดนทุกระดับรวมสามระดับคือ1.ระดับรัฐบาล มีผ....เป็นผู้แทนฝ่ายไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.ระดับกองทัพมีเสนาธิการทหารอากาศเป็นหัวหน้าคณะ และ 3.ระดับผู้ปฏิบัติงานมีเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศเป็นหัวหน้าคณะ สรุปคือเป็นการประชุมตั้งแต่ระดับสูงลงมาถึงระดับปฏิบัติการ ด้วยจุดประสงค์คือเพื่อให้ทั้งไทยและสวีเดนได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการพีซ สุวรรณภูมิ(Peace Suvarnabhumi) ชื่อเป็นทางการของโครงการจัดหาระบบเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์กริพเพน

นอกจากนี้ก็คือการเยี่ยมชมศูนย์จำลองการบินกองทัพอากาศ เยี่ยมชมกองบิน7ของสวีเดนที่มณฑลสคาราบอร์ก(Skaraborg)ซึ่งเป็นทั้งศูนย์ฝึกนักบินกริพเพน และเป็นฐานทัพอากาศหลักของเครื่องบินลำเลียงC-130”เฮอร์คิวลิส”ของสวีเดน และเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินกริพเพนที่เมืองลินเชอปิง

ก่อนจะเข้าถึงเรื่องราวของศูนย์จำลองการบินและกองบิน7 ความคิดหนึ่งที่ผมได้จากการมาสัมผัสถึงแหล่งกำเนิดของกริพเพนคือสวีเดนเป็นประเทศเล็ก คนน้อยแค่เก้าล้านสี่แสนคน ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่จึงต้องช่วยเหลือตัวเอง ร้านอาหารหลายแห่งมีบริกรไม่มากและบางร้านพ่อครัวต้องเสิร์ฟเอง โรงแรมระดับ4ดาวไม่มีพนักงานยกกระเป๋าแต่ได้ทำระบบลิฟต์และประตูให้เปิดปิดอัตโนมัติเข้าถึงได้ง่าย ห้องพักใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าทุกตารางนิ้ว เมื่อเขาต้องใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่า หลักคิดนี้จึงสะท้อนออกมาในวิธีการสร้างยุทโธปกรณ์ด้วยคือมันต้องใช้บุคคลากรเพื่อปรนนิบัติน้อย ใช้เครื่องมือง่ายๆ ใช้เวลาทำงานสั้น

หลักการคิดแบบสวีเดนได้สะท้อนให้เห็นชัดในวิธีการป้องกันประเทศของเขา เครื่องบินรบสัญชาติสวีดิชได้ถูกพัฒนาให้ราคาไม่แพงแต่ประสิทธิภาพสูง ง่ายต่อการบำรุงรักษาตลอดมาตั้งแต่เครื่องบินขับไล่รุ่นแรกคือซาบ21อาร์ จนถึงซาบเอเจ37วิกเกนเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นรุ่นพี่ของยาส39กริพเพน อันเป็นไปตามหลักยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันน่านฟ้าของสวีเดนเท่านั้นไม่ใช่รุกราน เครื่องบินขับไล่สวีเดนจึงบินไม่ต้องไกลมาก บรรทุกอาวุธทั้งจรวดและกระสุนได้พอเหมาะแต่เน้นที่ความคล่องตัวสูง เน้นความรู้เท่าทันสถานการณ์(situation awareness)เพื่อให้นักบินคงความอยู่รอดได้สูงในยุทธเวหา

พอคนน้อย ของน้อย ก็ต้องคิดกันให้หนักว่าทำอย่างไรถึงจะใช้งบที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด ผลก็เลยออกมาที่การสร้างเครื่องบินในยุคที่4ที่ใช้ระบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบให้เบากว่าเดิม ราคาถูกกว่า ซ่อมบำรุงง่ายกว่า กริพเพนจึงเบากว่าและราคาถูกกว่าวิกเกนครึ่งหนึ่ง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พร้อมมูลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจึงทำให้มันมีเครื่องช่วยฝึกและอุปกรณ์สนับสนุนพร้อมกว่า ท่ีน่าสนใจคือเครื่องจำลองการบินนี่เองซึ่งเป็นผลงานของศูนย์จำลองการบินสวีเดน หน่วยงานขึ้นตรงต่อสำนักวิจัยกลาโหมที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน1998นี้เอง ด้วยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อสร้างระบบจำลองการบินและอุปกรณ์สนับสนุนกับเครื่องบินต่างๆให้กองทัพอากาศสวีเดน

ระบบจำลองการบินนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้ใช้การได้กับเครื่องบินหลายแบบ ทั้งซี130,ยูโรค็อปเตอร์รวมทั้งเครื่องบินขับไล่หลักคือกริพเพน ประกอบด้วยภาพถ่ายทางอากาศ ระบบบอกพิกัดภูมิศาสตร์(จีพีเอส)และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบหลักคือตัวโดมจำลองการบินที่จำลองห้องนักบินของกริพเพนมาตั้งไว้หน้าจอโค้งลักษณะคล้ายกะลาผ่าครึ่งฝังดินตั้งไว้ นักบินทั้ง8นายสามารถทำได้ทั้งแบ่งข้างรบกันเองหรือรวมหัวกันทำยุทธเวหากับคอมพิวเตอร์ ทั้งหมู่บินสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกันได้ด้วยระบบLANขนาดกิกะบิต ติดต่อได้ทั้งจากจอภาพและด้วยหูฟังเชื่อมต่อกับระบบ

ข่าวดีของเราคือการสร้างภาพภูมิประเทศเพื่อใช้จำลองการบินนี้สวีเดนถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ ซึ่งเราสามารถใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อใช้ประโยชน์ได้ทั้งการจำลองภูมิประเทศเพื่อฝึกรบ และเพื่อควบคุมทรัพยากรธรรมชาติหรือจะใช้เพื่อกิจการใดก็ได้ในเมื่อรู้”วิธีทำ”แล้ว

ถึงแม้ระบบจำลองการบินนี้จะปรับเปลี่ยนไปใช้กับเครื่องบินรบได้หลากหลาย แต่ความเหมาะสมที่สุดคือเครื่องบินรบที่ใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลดิจิตอลสมบูรณ์แบบเช่นกริพเพน ค่าพิกัดภูมิศาสตร์ ลักษณะเด่นทางภูมิประเทศทั้งหมดจะปรากฎขึ้นบนจอดิจิตอลข้างหน้านักบิน ให้เขาได้รู้เท่าทันสถานการณ์เพียงแค่กดปุ่มเรียกดู สวีเดนเองก็ใช้ระบบนี้แบบครบเครื่องจนสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ามันจำลองการรบได้จริงๆ ในการฝึกจำลองการรบระหว่างสหรัฐฯและชาติพันธมิตรใหญ่ที่สุดชื่อ”Red Flag”ที่มีขึ้นทุกปีในฐานทัพอากาศเนลลิส ประกอบด้วยเครื่องบินชนิดต่างๆร่วม700ลำจากทุกชาติที่เข้าร่วม ฝึกทั้งการส่งกำลังบำรุง รบแบบพื้นสู่พื้น พื้นสู่อากาศจนถึงการกู้ภัยและช่วยเหลือนักบินที่ถูกยิงตก

สวีเดนใช้ระบบจำลองการบินหมู่8ของตนจำลองสภาพการฝึกทั้งหมดของเรดแฟล็ก สร้างประวัติการด้วยการเอาชนะF16ของสหรัฐได้จากการเข้าร่วมฝึกเรดแฟล็กครั้งแรก ด้วยการจำลองภูมิประเทศของทะเลทรายเนวาดาแล้วให้นักบินสวีดินบินกริพเพนจำลอง รบกับข้าศึกสมมุติในเครื่องจำลองการบินจนชำนาญก่อนจะปล่อยให้ไปเจอของจริงกับสหรัฐฯและพันธมิตรในพื้นที่การฝึกจริง ด้วยสภาพพื้นทีี่จำลอง ข้าศึกสมมุติและระบบอาวุธสมมุติ เครื่องจำลองการบิน(หรือเรียกให้ถูกว่าเครื่องจำลองการรบ)ของสวีเดนได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นกับระบบการฝึกของโลกแล้ว

เมื่อคิดในแง่ของความคุ้มค่า ระบบนี้ทั้งระบบจะช่วยให้กองทัพประหยัดงบฝึกซ้อมได้มาก สมมุติว่าเครื่องบินต้องใช้ค่าน้ำมันชั่วโมงละแสนเจ็ดหมื่น การขึ้นบินเพียงหมู่8ลำจะต้องสิ้นค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าน้ำมันอย่างเดียวเป็นล้านในเวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ ไม่รวมค่าอะไหล่และค่าสึกหรออื่นๆรวมทั้งค่าอาวุธจริง,อาวุธฝึกอีกมาก นักบินบินกับเครื่องจำลองการบินนี้จนคล่องแล้วปล่อยบินจริงอัตราการอยู่รอดก็จะสูงตาม ลดความเสี่ยงความเสียหายจากการฝึกได้มากทั้งตัวเครื่องบินและนักบิน

สวีเดนฉลาดตรงที่เลือกใช้ซอฟต์แวร์ใช้งานทางพาณิชย์ทั่วไปเช่นVAPS,StageและVega Prime ร่วมกับซอฟต์แวร์โมดูลสร้างโดยบริษัทอีริคสันไมโครเวฟกับแอโรเทค เทลูบและบริษัทอื่นๆในสวีเดน โดยให้บริษัทซาบพัฒนาระบบหลักๆ ที่ระบบจำลองการบินของกองทัพอากาศสามารถทำได้เช่นนี้เพราะมันถูกออกแบบใหม่ด้วยความคิดใหม่หมด ให้ประหยัด ซับซ้อนน้อย แต่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด ที่ผมเห็นว่าชัดเจนที่สุดคือการออกแบบจอให้โค้งครอบห้องนักบินไว้ทั้งหมด แล้วฉายภาพจากโพรเจคเตอร์เข้าจอให้เลยระยะการมองเห็นของนักบิน ซึ่งเขาจะรู้สึกคล้ายอยู่ในสถานการณ์จริงเมื่อมองข้างๆซ้าย,ขวาและบนพบแต่ท้องฟ้าและภูมิประเทศ ต่างจากระบบจำลองการบินแบบเดี่ยวที่เครื่องบินลำเดียวต้องเล่นกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่บินเกาะหมู่ไปจนถึงต่อตีเป้าหมายทั้งบนพื้นและในอากาศ

ดูระบบจำลองการรบของกริพเพนแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของศูนย์ฝึกนักบินกริพเพนในกองบิน7ซึ่งจะสาธิตสมรรถนะของเจ้าสิงห์บินให้ดูทั้งในอากาศและบนพื้น จบด้วยการเข้าถึงถิ่นกำเนิดของมันในเมืองลินเชอปิง ตอนต่อไปเราจะได้เห็นกันล่ะว่าที่สวีเดนคุยว่าใช้เวลาแค่10กว่านาทีตั้งแต่เครื่องบินจอดนิ่งเพื่อเติมน้ำมันและประกอบอาวุธจนออกบินนั่นจริงหรือไม่ และกว่าจะมาเป็นกริพเพนให้เห็นเป็นลำๆได้นั้นเขาทำยังไงกันบ้าง

1 ความคิดเห็น: